เทคนิคการหมุนเงินขั้นเทพ: ชัยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ

สมัยที่คุณชัยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ แกรุ่งเรืองร่ำรวยจนสร้างสวนสยามนั้น ได้รับการเชิญไปเป็นวิทยากรสร้างแรงบันดาลใจรวมทั้งเปิดเผยเคล็ดลับการ 'หมุนเงิน' ที่ทำให้แกรวยขึ้นมาได้ขนาดนั้น

การหมุนเงิน นั้นไม่ใช่ การนำเอาเงินของคนอื่นที่จ่ายผ่านเรา เช่น ค่าจ้างส่วนของเพื่อนร่วมงาน ค่าแรงงานของลูกน้องที่ตนเองรับจากผู้จ้างมาแล้ว แต่ยังไม่จ่ายตามวัน เอาไปใชเก่อน แล้วค่อยหามาจ่ายให้ทีหลัง

แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นการ 'หมุนเงิน' แต่เป็นการ 'เบียดบัง'

เบียดบัง = เบียดเบียน + ปิดบัง

กับคนที่ไม่เดือดร้อนอะไรจากการที่คุณเอาเงินเขาไปใช้ก่อน คุณก็เข้าข่าย 'ปิดบัง' เพราะบอกว่าเงินยังไม่ออก แต่ความจริงคือ เงินออกแล้วและคุณเอาไปใช้

ถ้าคน ๆ นั้นเดือดร้อนเพราะว่าคุณเอาเงินส่วนของเขาไปใช้ ไม่ยอมจ่ายตามกาลที่เขาต้องได้รับ มันเป็นการ 'เบียดเบียน'

ทั้งการเบียดเบียนและปิดบังเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าคบหา ทุกสิ่งที่คุณทำมันจะวนเป็นลูป และมันก็จะขยายวงกว้างไปเรื่อย ๆ หากคุณหาเงินมาใช้เขาเนิ่นช้า จำนวนผู้ที่ถูกคุณปิดบัง หรือทั้งปิดบังและเบียดเบียนก็จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ

คุณจะจมปลัก และไม่มีทางร่ำรวยขึ้นมาได้ เว้นแต่จะถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 เพราะพฤติกรรมแบบนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากการขาด 'วินัยทางการเงิน'

เช่นเดียวกัน

"ถ้าคุณซื้อสินค้าด้วยเครดิต แล้วนำสินค้านั้นไปขายด้วยเงินสด นี่ต่างหากที่เป็นการ 'หมุนเงิน' ที่แท้จริง ถูกต้อง เที่ยงธรรม และ

ทำให้รวย!

หากซื้อสินค้ามาโดยได้เครดิต 45 วัน และสามารถขายได้รับเป็นเงินสด สินค้าหมดภายใน 30 วัน หรือน้อยกว่า คุณก็นำเงินจำนวนนั้นไปฝากธนาคารเพื่อหาดอกผล จนกว่าจะถึงวันครบกำหนดชำระเงินค่าสินค้า

ลูปนี้ หากคุณทำได้มากขึ้น ๆ เงินค่าสินค้าที่รอจ่ายตามกำหนดที่คุณฝากไว้ที่ธนาคารก็จะเป็นเงินก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ที่จะทำให้คุณได้รับดอกผลเป็นเงินจำนวนมากขึ้นตาม นี่ยังไม่นับรวมถึง 'กำไร' จากการขาย" คุณชัยวัฒน์ เล่าให้ฟัง*

กงล้อการเงิน แบบนี้ที่หมุนไปอย่างต่อเนื่อง จะทำให้คุณร่ำรวยขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องพึ่งการถูกสลากกินแบ่งฯ

เทพีแห่งโชค จะดลบันดาลให้คนที่ปิดบังทั้งยังเบียดเบียนผู้อื่นนั้นได้ลาภก้อนใหญ่หรือ? ลองคิดดู

* เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนาน ยากที่จะจดจำได้ตรงทุกคำพูด แต่ใจความสำคัญไม่ผิดเพี้ยน